ASUS TUF Gaming FX505DU มาแล้ว เป็นรุ่นท็อปของตระกูล ASUS TUF Gaming FX505 รุ่นใหม่ๆ รวมไปถึง FX505DY (ขายดีจนของหมด) ที่ประสบความเร็จเป็นอย่างดี ล่าสุดแอดมินโป้ง NBS ได้มีโอกาสรีวิว Gaming Notebook สเปก AMD Ryzen 7 3750H + NVIDIA GeForce GTX 1660 Ti ขอบหน้าจอบาง โดยไปทำการตีบวกยัดสเปคจัดเต็มแน่นเอียดในราคาสุดคุ้มเหมือนเดิม นับว่าเป็น Gaming Notebook จอ 15.6″ ที่คุ้มค่าที่สุดในงบประมาณไม่เกิน 30,000 บาท
โดย ASUS TUF Gaming FX505DU เครื่องที่เราได้รับมารีวิวนั้น เป็นเครื่องขายจริงที่ยืมจากผู้ซื้อจริงๆ มา สเปกอื่นๆ มีหน่วยความจำแรมขนาด 8GB DDR4 Bus 2666 และมี SSD m. 512GB PCIe มาให้ด้วย ส่วนหน้าจอก็ขนาด 15.6″ความละเอียด Full HD พาเนล IPS รองรับที่ 120 Hz พร้อม Windows 10 ในราคาเพียง 29,990 บาท ได้ประกัน 2 ปี และประอุบัติเหตุในปีแรก ซึ่งรุ่นเริ่มต้นจะเป็น ASUS TUF Gaming FX505DD ที่ใช้การ์ดจอเป็น GTX 1050 ส่วนรุ่นกลางเป็น ASUS TUF Gaming FX505DT ที่รีวิวไปแล้ว การ์ดจอ GTX 1650 ราคา 20,990 – 26,990 บาท
Specification
สเปกของ ASUS TUF Gaming FX505DU ใช้ชิปประมวลผลเป็น AMD Ryzen 7 3750H ทำงานแบบ 4 Core/8 Thread ด้วยความเร็ว 2.3 – 4GHz สถาปัตยกรรม 12 นาโนเมตร ประสิทธิภาพแรง พร้อมฟีเจอร์มากมาย เช่น SenseMI คอยจัดการให้เหมาะสมกับการใช้งานอย่างที่ไม่มีใน Intel ผสานกับการ์ดจอออนบอร์ดที่เป็น Radeon RX Vega 10 ส่วนการ์ดจอก็อย่างที่รู้กันดีคือ GTX 1660 Ti (6GB GDDR6) ที่มาทดแทน GTX 1060 ส่วนแรมขนาด 8GB 1 แถว DDR4 2666MHz และให้ SSD NVME PCIe ความจุ 512GB เป็นมาตรฐาน
ส่วนสเปกอื่นๆ ก็น่าสนใจไม่แพ้กัน ได้หน้าจอที่ 120Hz แบบ NanoEdge ขอบจอบาง ความละเอียด Full HD พาเนล IPS ขนาด 15.6″ สามารถติดตั้งแรมได้สูงสุด 32GB DDR4 Bus 2666 รวมไปถึงที่เก็บข้อมูลก็รองรับทั้ง SSD M.2 และฮาร์ดดิสก์ปกติ SATA 3 ด้วย อีกทั้งการเชื่อมต่อก็ครบถ้วนด้วยมาตรฐาน Wi-Fi AC และ Bluetooth 5.0 พร้อมกล้องเว็บแคม HD (720p) และมีไมค์ดิจิตอลในตัว
ส่วนการเชื่อมต่อก็มีมาให้พอตัวทั้ง HDMI, 2 x USB 3.1 Type-A, 1 x USB 2.0, Kensington lock slot, LAN RJ-45, รูหูฟังกับไมค์แบบ Combo ซึ่งพอร์ตเชื่อมต่อทั้งหมดจะอยู่ด้านซ้ายมือตัวเครื่อง พร้อมระบบปฎิบัติการติดตั้ง Windows 10 แท้มาให้ในตัว การรับประกัน 2 ปี ส่งเคลม 7-11 และที่สำคัญเมื่อเอาซีเรียลไปลงทะเบียนในเว็บไซต์ ASUS จะได้รับประกันอุบัติเหตุฟรี 1 ปีแรกจากทาง ASUS อีกด้วย อุ่นใจจัดเต็ม
*เครื่องนี้เป็นการสั่งซื้อมาจริงๆ พอดีมีเพื่อนจะซื้อ เลยขอยืมมารีวิว 2-3 วัน โดยเป็นการซื้อจาก JIB Online ส่งใน 3 ชั่วโมง ห่ออย่างดี มีของบันเดินเป็นกระเป๋าของ ASUS ROG และของแถมเป็นชุดกิ๊บเซ็ตจาก JIB
Hardware / Design
ที่ผ่านมาสำหรับ ASUS TUF Gaming FX505 นับว่าเป็น Gaming Notebook ที่ดีมากๆ ได้ทั้งความคุ้มค่า ประสิทธิภาพความแรง แบบที่หลายๆ อย่างยกมาจากรุ่นพี่ ROG เลย แต่มาในราคาที่ไม่แพง สามารถจับต้องได้ง่าย โดยที่ผ่านมาเราเห็นกันมาแล้ว อย่าง ASUS TUF Gaming FX505 และ FX705 ที่เป็นรุ่นใช้ชิปประมวลผล Intel Core i Gen 8 และการ์ดจอ NVIDIA GeForce GTX 10 Series รวมไปถึง ASUS TUF Gaming FX505DY ที่ได้สเปกเป็น AMD Ryzen 5 3550H กับการ์ดจอ Radeon RX560X ที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก ในงบ 20,000 บาท แทบไม่มี Gaming Notebook รุ่นไหนสู้ได้ทีเดียว
ASUS TUF Gaming FX505DU ก็มีความน่าสนใจเช่นเดิม อย่างในเรื่องของขอบหน้าจอบาง นั่นก็ทำให้ตัวเครื่องมิติโดยรวมมีความเล็กกระทัดรัดลง แม้เป็น Gaming Notebook หน้าจอ 15.6″ แต่ก็มีความใกล้เคียงกับโน้ตบุ๊คขนาดหน้าจอ 14″ แบบสมัยก่อนๆ มาก ส่วนน้ำหนักก็อยู่ที่ 2.2 กิโลกรัม จัดได้ว่าเป็น Notebook ที่สเปกแรงมากๆ แต่น้ำหนักเบาๆ พกพาสะดวก มีความทนทานระดับ Military Grade ต่อแรงกระแทก อุณหภูมิสูงต่ำ ความชื้น ความกดอากาศ และแสงแดด เรียกได้ว่าเป็น Gaming Notebook น้อยรุ่นนักที่มาพร้อมคุณสมบัติแบบนี้
ดีไซน์การออกแบบของ ASUS TUF Gaming FX505DU เรียกได้ว่าถอดรูปแบบมาจาก FX505 รุ่นก่อนหน้านี้มาแบบเต็มๆ แล้วจับมาเปลี่ยนโทนสีเป็นโทนสีดำคล้ายกับรุ่น FX505 ตัวก่อนๆ โดยบอดี้ตัวเครื่องก็จะมีลักษณะที่เน้นเรื่องความโฉบเฉี่ยว ดุดัน โดยจะเปลี่ยนลายฝาหลังวัสดุจะเป็นพลาสติกสีดำ ทำเป็นลายขีดเส้นตัว X ผิวเรียบลายปัดเสี้ยน ตรงกลางฝาหลังมีโลโก้ ASUS สีเงินสะท้อนแสงสวยงาม สไตล์ Gaming Notebook ที่เรียบๆ โดย ASUS ให้ชื่อกับสีสันนี้ว่า Stealth Black
ส่วนด้านในจะเป็นพลาสติกแบบมีลวดลายคล้ายโลหะปัดเสี้ยนให้สัมผัสผิวไม่เรียบ ที่นอกสายสวยงามแล้วคือเป็นลายนิ้วมือได้ยาก นับว่าเป็รอะไรที่น่าประทับใจมากๆ ทั้งภายนอกและภายใน ที่ดูแล้วลงตัวกว่ารุ่นก่อนหน้าไปอีกขั้น ทางด้านพับตัวเครื่องถูกออกแบบมาให้เป็นแบบบานพับคู่วัสดุเป็นพลาสติกแข็งแรง พร้อมมีการตัดช่องเป็น V-Sharp ช่วงให้อากาศไหลผ่านได้ดีขึ้น และมีช่องระบายอากาศด้านบนคีย์บอร์ดเพิ่มเข้ามา ส่วนด้านหลังตัวเครื่องออกแบบให้มีช่องระบายความร้อนสองช่องขนาดใหญ่ ฟินระบายความร้อนเป็นสีแดงเข้ม
นอกจากนี้ยังเป็นเรื่องของระบบระบายความร้อนก็ใช้ระบบ Hyper Cool สามารถปรับเร่งรับได้ ฟินระบายความร้อนสีแดง พร้อมมี Anti-Dust Tunnel สำหรับเป่าฝุ่นออกมาให้อีกด้วย จัดเต็มจริงๆ ให้มาครบไม่มีกั๊ก ส่วนของคีย์บอร์ดจะให้ไฟ RGB แบบ All Zone ปุ่ม WASD ทำไฮไลท์ไว้ สามารถรองรับการกดได้ 20 ล้านครั้ง Travel Key 1.8 mm การวางเลเอาท์จะเหมือนกับคีย์บอร์ดแยกจริงๆ
ส่วนด้านฐานของตัวเครื่องวัสดุพลาสติกที่แข็งแรงพร้อมอากาศเย็นผ่าน โดยมีช่องดูดลมเย็นใต้เครื่อง อีกทั้งยังมีช่องด้านบนเหนือคีย์บอร์ดมีช่องดูดลมอีกช่องช่วยนำพาอากาศเย็นเข้าไปอีก รวมๆ แล้วต้องยอมรับว่าทาง ASUS นั้นใส่ใจในการออกแบบมาจริงๆ นอกจากที่อัพเกรดได้ไม่ยากแล้ว ยังทำความสะอาดได้สะดวกสบายอีกด้วย
อีกหนึ่งความโดดเด่นของ ASUS TUF Gaming FX505DU คือมิติตัวเครื่องค่อนข้างเล็ก พกพาหรือหยิบใส่กระเป๋าได้สบายๆ โดยสามารถใช้กระเป๋าโน้ตบุ๊ค 14 นิ้วได้เลย รวมถึงปุ่มคีย์บอร์ดที่ออกแบบมาเพื่อเกมเมอร์โดยเฉพาะ ทำการทำไฮไลท์ปุ่ม WASD ใหม่เป็นสีขาวใส มีไฟ RGB สามารถปรับได้ 3 ระดับ พร้อมปุ่ม Spacebar ด้านมุมล่างซ้ายก็ทำแหว่งออกมานิดหนึ่งเพื่อให้ใช้นิ้วโป้งซ้ายกดง่ายขึ้นด้วย
สรุปโดยรวมการออกแบบดีไซน์ภายนอกและวัสดุนั้น ทำได้ดีตามมาตรฐานของ ASUS TUF Gaming ที่ทุกคนไว้ใจและมั่นใจจริงๆ ตอบโจทย์ของคนที่ต้องการโน้ตบุ๊คประสิทธิภาพสูงในดีไซน์เรียบๆ แต่แอบแฝงความแรงและเรียบหรูเอาไว้ ที่ไม่ใช่แค่แรง แต่แข็งแรงทนทาน ระบบระบายความร้อนดี ขอบจอต้องบางเฉียบ ยกให้เป็น Gaming Notebook ราคาคุ้มค่าที่สุดในงบไม่เกิน 30,000 บาทของปี 2019 ไปเลย
Keyboard / Touchpad
คีย์บอร์ดของ ASUS TUF Gaming FX505DU มาพร้อมไฟ RGB Auraโดยเป็นแบบ All Zone ที่สามารถเปลี่ยนสีได้ผ่านทางซอฟต์แวร์ ได้หลากหลายรูปแบบ นับได้ว่าเป็นครั้งแรกของตระกูล ASUS TUF Gaming ที่คีย์บอร์ดมีไฟ RGB เหมือนกับรุ่นพี่ ROG คีย์บอร์ดที่แฝงไว้ด้วยคาแรคเตอร์ของความเป็นเกมมิ่งด้วย 4 ปุ่ม WASD ที่เกมเมอร์คุ้นเคย
เสริมความโดดเด่นสวยงาม สามารถสังเกตได้ง่าย จากการที่ปุ่มมีความขาวใส โดยวางนิ้วบนปุ่มได้อย่างรวดเร็ว ตัวปุ่มกดแบบ Chiclet Switches ที่มีระยะห่างระหว่างปุ่ม 1.8 มม. ปุ่มโค้ง 0.25 มม. รองรับ N-key Rollover และแยกปุ่มลูกศรชัดเจน รวมถึง Numpad ก็มีมาให้เพื่อความสะดวกในการใช้งานได้แบบแป้นพิมพ์ Full Size ด้วยเช่นกัน
ส่วนของทัชแพดที่มีขนาดพอเหมาะพอดีกับตัวเครื่อง ถูกออกแบบมาให้เป็นแบบซ่อนปุ่มเพื่อความสวยงาม และทำไฮไลท์เส้นแบ่งโซน เข้ากับตัวเครื่องโดยรวมได้เป็นอย่างดี พื้นผิวมีลักษณะเรียบลื่น แต่อาจจจะเป็นคราบรอยนิ้วมือง่ายสักหน่อยและยวบไปนิดนึง
Screen / Speaker
ASUS TUF Gaming FX505DU มีหน้าจอขอบจอบางเฉียบเพียง 6.5 มิลลิเมตรทั้งขอบด้านข้างและด้านบน ขนาด 15.6 นิ้ว ความละเอียด Full HD (1920×1080 พิกเซล) พาเนลเป็น IPS คุณภาพดี มุมมองกว้าง พื้นผิวจอแบบด้าน Anti-Glare รวมๆ ทั้งสีสันความคมชัดแล้วจัดว่าอยู่ในเกณฑ์ดี เหมาะกับการใช้งานทั่วๆ ไปหรือการเล่นเกมก็ทำได้อย่างน่าประทับใจ รวมไปถึงยังเป็นหน้าจอ 120Hz ทำให้ใช้งานเล่นเกม FPS ฉากเคลื่อนไหวเร็วๆ ได้อย่างลื่นไหลกว่าหน้าจอทั่วไปที่แค่ 60Hz รวมๆ แล้ว ถือว่าดีกว่ามาตรฐานของ Gaming Notebook ปี 2019 ทั่วไปมากทีเดียว
การทดสอบประสิทธิภาพหน้าจอของ ASUS TUF Gaming FX505DU ที่เป็นโน้ตบุ๊กที่ใช้หน้าจอพาเนล IPS คุณภาพสูงกว่า TN จึงได้ทำการทดสอบหน้าจอแบบละเอียดๆ ด้วยเครื่องมือที่เป็นทั้งซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์อย่าง Spyder5Elite พร้อมทั้งคาลิเบรทหน้าจอให้สีสันมีความตรงความเป็นจริงมากที่สุด ผลที่ได้หลังจากที่คาลิเบรทก็คือคอนทราสต์มีการไล่โทนที่กว้างขึ้น รวมไปถึงมีสีสันและอุณหภูมิสีที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างชัดเจน จากโทนเย็นกลายเป็นโทนอุ่น
โดยให้ขอบเขตความกว้างของสีสันเทียบเท่ากับมาตรฐาน sRGB 61% และ AdobeRGB 45% ดูจากที่เส้นสีของหน้าจอจะเป็นสีเขียวและสีแดง เรียกได้ว่าให้ประสิทธิภาพเรื่องของสีสันระดับกลางๆ ค่อนไปทางดี ความสว่างหน้าจอสูงสุดอยู่ที่เกือบๆ 220 cd/m2 ซึ่งจัดได้ว่าอยู่ในเกณฑ์ดีกว่ามาตรฐานความสว่างของหน้าจอในโน้ตบุ๊กทั่วไป คือ พอสู้แสงกลางแจ้งได้ รวมไปถึงการทำงานภาพกราฟิกหรือตกแต่งภาพที่เน้นมืออาชีพหน่อยก็ทำได้ดีเช่นกัน
ต่อกันที่วัดความสว่างของหน้าจอตามตำแหน่งต่างๆ โดยแบ่งเป็น 9 ช่อง เทียบจากช่องกลางที่ปกติแล้วจะให้ความสว่างที่มากที่สุด ที่จะเห็นได้ว่าช่องกลางจอเป็น 0% ก็คือแสดงความสว่างได้เต็มที่ที่ 220 cd/m2 แต่สำหรับช่องกลางดา้นซ้ายเหมือนจะมีแสงสว่างที่ลดลงระดับ 15% ที่ถือว่าค่อนข้างเยอะ ในการทดสอบก็เพื่อให้เราใช้งานอย่างระมัดระวังสำหรับคนที่บังเอิญจำเป็นต้องใช้งานภาพถ่าย หรืองานกราฟิกอื่นๆ ปิดท้ายด้วยคะแนน 3.5 เมื่อทดสอบด้านการแสดงผลต่างๆ ทั้งหมดแล้ว ผ่านทางอุปกรณ์ Spyder5Elite
ลำโพงของตัวเครื่องใช้เป็นแบบ Stereo 2.0 แยกเสียงซ้ายขวาได้ชัดเจนดี ระบบเสียง DTS Headphone: X ทำให้มีเสียงดังฟังชัด มีน้ำหนัก ถือว่าเอามาเล่นเกมฟังเพลงได้ดีในระดับหนึ่งตามสไลต์เสียงจากลำโพงโน้ตบุ๊ค ช่องลำโพงถูกออกแบบมาอย่างแนบเนียน อยู่ด้านข้างตัวเครื่องซ้ายขวา พร้อมทำสีสันเป็นสีแดง ช่วยแก้ปัญหาสำหรับบางคนที่เวลาพิมพ์งานข้อมืออาจจะไปปิดช่องลำโพงทำให้เสียงออกไม่เต็มที่ได้
Connector / Thin And Weight
มาดูทางด้านพอร์ตการเชื่อมต่อตัวเครื่อง ASUS TUF Gaming FX505DU กันบ้าง ซึ่งเครื่องนี้จัดว่าเป็นโน้ตบุ๊คที่มีพอร์ตเชื่อมต่อมาให้ครบครับใช้ได้เลยทีเดียว โดยตัวพอร์ตจะอยู่ด้านซ้ายมือตัวเครื่องทั้งหมด มีทั้ง USB 3.1 Type-A (Gen 1) จำนวน 2 พอร์ต, USB 2.0 จำนวน 1 พอร์ต พร้อมช่องต่อหูฟังกับไมค์แบบ Combo ขนาด 3.5 มิลลิเมตร 1 ช่อง, Lan และ HDMI ส่วน Kensington จะอยู่ที่ด้านขวา โดยตัวเครื่องจะไม่มี SD Card Reader และ USB 3.1 Type-C
ในส่วนของการเชื่อมต่อไร้สายจะใช้ Bluetooth 4.2 และ Wireless แบบ 802.11b/g/n/ac หรือเรียกว่ามาตราฐาน Wi-Fi 5 (2×2)ซึ่งจะช่วยให้การเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตให้มีความสเถียรมากยิ่งขึ้น ส่วนขนาดของตัวเครื่อง 360.4 x 262.0 x 25.8 ~26.8 มม. น้ำหนัก 2.2 กิโลกรัม ถือว่าค่อนข้างเบาเลยทีเดียว เมื่อเทียบกับเกมมิ่งโน้ตบุ๊ครุ่นอื่นๆ ที่มักจะอยู่ที่ประมาณ 2.5 กิโลกรัมขึ้นไป และเมื่อรวมกับอแดปเตอร์ชาร์จไฟขนาด 150 W เข้าไปด้วยจะมีน้ำ
Inside / Upgrade
การแกะเครื่อง ASUS TUF Gaming FX505DU เพื่อทำการอัพเกรดนั้นทำง่ายมากเพียงแกะน็อตออกทุกตัวแล้วใช้บัตรแข็งๆ ค่อยๆ แงะจากด้านหลังตรงแกนฝาพับตัวเครื่องแล้วค่อยๆ รูดไปตามแนวฝาหลัง และแกะแผ่นออกมาทั้งหมด เมื่อแกะออกมาแล้วก็จะเห็นฮาร์ดแวร์หลายๆ ถูกออกแบบจัดระเบียบได้ค่อนข้างดีเลยทีเดียว มีพัดลมขนาดใหญ่ HyperCool พร้อมระบายความร้อนที่มี Anti-Dust Tunnels ที่อยู่ในชุดฟินสีแดง หมดกังวลเรื่องฝุ่นที่ติดตรงครีบระบายความร้อนจุดสังเกตที่เปลี่ยนไปคือตัวเครื่องเลือกใช้ฮีทไปป์ 2 เส้น เรียกได้ว่าเอาอยู่กับสเปกแบบนี้แล้ว
ซึ่งหลังจากที่แกะออกมาแล้วนั้นจะเห็นแผ่นสีดำ สีเทาแปะติดไว้อยู่ในหลายๆ ส่วนเพื่อกันไฟฟ้าสถิต และในส่วนของฮาร์ดแวร์ที่สามารถทำการอัพเกรดคือมีช่องใส่ SSD หรือ HDD 2.5″ ธรรมดาก็ได้แล้วจะเรา โดยตัวเครื่องได้ให้น็อตมาให้ 4 ตัวในกล่องสำหรับถาด HDD ส่วน Ram สามารถอัพเพิ่มได้อีก 1 ช่อง และได้ใส่ได้รวมกันสูงสุด 32 GB แนะนำว่าซื้อ 8 GB DDR4 Bus 2666 มาใส่อีกตัวก็เพียงพอกับการใช้งานมากๆ แล้ว