หากคุณกำลังคิดจะซื้อโน๊ตบุ๊คเครื่องใหม่ในยุค New Normal นี้ เราอยากแนะนำคุณ สัก 2-3 เรื่องที่สำคัญสำหรับการตัดสินใจ แน่นอนเรื่องแรกราคา
เรื่องต่อมาคือเรื่องคุณสมบัติและประสิทธิภาพ เรื่องสุดท้ายคือความพึงพอใจตอนใช้งาน พูดให้ตรงก็คือดีไซน์นั่นแหละครับ
เรื่องเงินเป็นเรื่องสำคัญเสมอ จึงมักจะถูกจัดอยู่เป็นลำดับแรกในหลายสถานการณ์ แต่สำหรับการซื้อโน๊ตบุ๊คนั้นเราต้องพิจารณาคุณสมบัติและ
ประสิทธิภาพประกอบกัน เราจึงขอข้ามเรื่องงบประมาณไปพิจารณาเรื่องของคุณสมบัติและประสิทธิภาพกันก่อน
ประสิทธิภาพหลักๆ ของคอมพิวเตอร์ส่วนมากเราก็จะวัดกันที่หน่วยประมาลผลกลางหรือที่เราเรียกกันว่าซีพียู งั้นก็เข้าประเด็นเลยดีกว่านะครับ ซีพียู
ของ AMD ได้รับความเชื่อถือมาไม่น้อยกว่า 10 ปี หลายท่านก็รู้จักดีและเคยลองใช้กันมาแล้ว ไม่ว่าจะเป็น Athlon หรือ Ryzen ซีรี่ย์แรกที่ออกวาง
จำหน่ายครั้งแรกในปี 2016 และเมื่อต้นปี 2020 นี้ AMD ได้เปิดตัวซีพียู Ryzen 4000 เป็นซีรี่ย์ใหม่ล่าสุด ซึ่งถือเป็นปรากฏการณ์ใหม่ในวงการซีพียู
ครั้งแรกในโลกของซีพียูที่ใช้เทคโนโลยี 7 นาโนเมตร
การที่ใช้เทคโนโลยี 7 นาโนเมตรคืออะไร? และดีอย่างไร? 7 นาโนเมตรเป็นเทคโนโลยีการผลิตซีพียูที่มีขนาดเล็กที่สุด แต่กลับมีประสิทธิภาพสูงกว่า
เทคโนโลยีรุ่นก่อนหน้าคือ 12 นาโนเมตรอย่างก้าวกระโดด แล้วขนาดที่เล็กมากๆนี้มีประโยชน์ยังไงกับผู้บริโภคหรือผู้ใช้งาน? ต้องขอบอกว่ามี
ประโยชน์อย่างมากคือ..
ในยุคโควิด 19 ที่เราทุกคนกำลังปรับตัวกันอย่างขะมักเขม้นนี้ สิ่งที่เป็น New Normal ที่เราต้องคุ้นเคยให้ได้คือการรักษาระยะห่างมากขึ้นตามคอนเซ็ปต์
Social Distancing วัฒนธรรมที่จะหายไปอย่างแน่นอนคือ Co-working space พร้อมๆกับการนั่งทำงานครึ่งค่อนวันตามร้านกาแฟ ดังนั้นใครที่
คิดจะไปเสียบปลั๊กแบบตายเอาดาบหน้าอาจจะต้องตายจริงๆ หากโน๊ตบุ๊คคุณเริ่มแบตเสื่อมมาระยะหนึ่งแล้ว เพราะฉะนั้นสิ่งที่คุณต้องการคือโน๊ตบุ๊ค
ที่แบตอึดๆ ทำงานต่อเนื่องได้ไม่ต่ำกว่า 10 – 12 ชั่วโมง ตรงนี้แหละที่ซีพียู Ryzen 4000 Series ตอบโจทย์ได้ตรงประเด็น ด้วยขนาดที่เล็กกว่าและ
มีการ์ดจอออนบอร์ดจึงมีประสิทธิภาพการใช้พลังงานต่อวัตต์สูงขึ้น 2 เท่า กินไฟเพียง 15 วัตต์ ประหยัดพลังงานกว่า CPU การ์ดจอแยกที่ต้องกิน
ไฟมากกว่า 25 วัตต์ คุณจึงสามารถพกพาโน๊ตบุ๊คที่ใช้ซีพียู Ryzen 4000 Series ไปทำงานที่ไหนก็ได้แบบหมดห่วง
ในมุมของประสิทธิภาพความเร็วและแรง ถึงตอนนี้ AMD ก็สามารถพูดอย่างเต็มปากได้ว่า Ryzen 4000 Series คือเบอร์หนึ่งในเรื่องความเร็วและ
แรงด้วยว่าจนถึงขณะนี้ยังไม่มีใครตามทันในจำนวนคอร์และเธรดที่มีมากกว่าใครถึง 8 คอร์ 16 เธรดในซีพียู Ryzen 4000 U-Series ซึ่งเป็นครั้งแรก
ที่มีการผลิตซีพียูแรงได้ขนาดนี้ และยังมีเทคโนโลยีอัจฉริยะ ‘SmartShift’ ที่เป็นการจัดการการประมวลผลอย่างชาญฉลาดคือการใช้การ์ดจอในซีพียู
กับการ์ดจอแยกสลับการทำงานร่วมกันได้ตามต้องการ เช่นใช้งานทั่วไปก็จะใช้การ์ดจอใน CPU แต่เมื่อทำงานกราฟิกหรือเล่นเกมก็จะสลับไปการ์ด
จอแยก ซึ่งการทำงานแบบไดนามิคแบบนี้ให้ประสิทธิภาพในการเล่นเกมสูงขึ้น 10% และสูงขึ้นถึง 12% เมื่อนำไปใช้ในการสร้างสรรค์คอนเทนต์
และในไม่กี่เดือนข้างหน้าเมื่อสังคมโลกเข้าสู่ยุค Next Normal อย่างเต็มตัว ผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับวงการการศึกษาก็คือเทรนด์ Tele-Education
หรือการเรียนจากที่บ้านที่ตอนนี้น้องๆ นักศึกษาคุ้นเคยกันเป็นอย่างดีแล้ว หลายๆคนต้องนำเสนองานแบบ Tele-Presentation อีกด้วย โน๊ตบุ๊คที่
ใช้กันจึงต้องรองรับการสตรีมมิ่งแบบลื่นไหลไม่กระตุก ถ้าจะให้ดีก็ต้องใช้กับงาน VR (Virtual Reality), AR (Augmented Reality), และ MR
(Mixed Reality) จึงจะเรียกว่าลงทุนทีเดียวคุ้มไปหลายปี ซึ่งสิ่งเหล่านี้มีพร้อมอยู่แล้วใน Ryzen 4000 Series
รูปลักษณ์กับความพอใจในการใช้งาน
ประเด็นนี้อาจจะยากในการตัดสินเพราะเป็นเรื่องต่างจิตต่างใจ บางคนอาจจะเน้นประสิทธิภาพความแรง ตัวเครื่องอาจจะหนาหนักสักหน่อยก็ไม่เกี่ยง
แต่บางคนเกี่ยงเรื่องภาพลักษณ์เพราะงานที่ทำต้องพบปะผู้คนบ่อยไม่ว่าจะไปพบลูกค้าหรือประชุมนอกสถานที่ยังไงต้องดูดีไว้ก่อนเครื่องช้านิดนึง
ก็พอทำใจ
เอาเป็นว่าถ้าคุณต้องทำงาน WFH สลับกับเข้าออฟฟิศและพบลูกค้าแบบรัวๆ เราก็อยากแนะนำให้ใช้โน๊ตบุ๊คที่มีซีพียู Ryzen 4000 Series เพราะด้วย
ความที่มีขนาดเล็กทำให้ตัวเครื่องเบาบาง ไม่ว่าจะเป็น Working หรือ Gaming Notebook ก็ตามน้ำหนักจะน้อยกว่ารุ่นอื่นๆ คุณจะสะดวกมาก
เวลาที่ต้องพกพาไปโน่นนี่อยู่บ่อยๆ ความสวยงามก็มีให้เลือกอยู่หลายแบรนด์ที่มีคอนเซ็ปต์ดีไซน์ที่น่าจะตรงใจคุณ
เรื่องราคา
มาถึงเรื่องสุดท้ายที่คุณอยากรู้มากที่สุด ก็อย่างที่เราๆรู้กันว่าราคาซีพียูของ AMD มักจะราคาถูกกว่าแบรนด์ อื่นอยู่แล้ว Ryzen 4000 Series ก็เช่น
เดียวกันถือว่าจับต้องได้แบบคุ้มค่าเกินราคาและมีให้เลือกหลายแบรนด์ ตอนนี้ที่เริ่มทำตลาดและมีรีวิวให้เห็นแล้วก็มี Acer Swift 3 SF314-42
โน้ตบุ๊คสเปก AMD Ryzen 4000 ที่ จัดเต็มเรื่องความคุ้มค่า โดยชิปประมวลผล U Series ที่เน้นประหยัดพลังงานสำหรับโน้ตบุ๊คทำงาน ซึ่งเดิมที
AMD ทำตลาดในกลุ่มนี้ได้อย่างน่าสนใจด้วยราคาที่ถูกและประสิทธิภาพดี ราคาเริ่มต้นที่ 22,900 บาท
ส่วนในสายเกมมิ่งก็มี ASUS ROG Zephyrus G15 (GA502IU) เป็น Gaming Notebook รุ่นแรกของไทย ที่ใช้ชิปประมวลผล AMD Ryzen 4000
H-Series ที่ประสิทธิภาพสูง แต่ร้อนน้อยและบางเบาน่าใช้มีความพรีเมียมดูดี เวลาพกพาไปใช้งานนอกสถานที่แบตใช้งานได้นานกว่า 10 ชั่วโมง
สนนราคา 39,900 บาทก็ถือว่าสมน้ำสมเนื้อสำหรับโน๊ตบุ๊คเกรดนี้ หรือจะเป็น ASUS TUF Gaming A15 FA506 ที่เน้นความคุ้มค่าเหมาะทั้งใช้ทำงาน
หรือเล่นเกมที่ดูแล้วทันสมัยสุดๆ ในราคาเริ่มต้นที่ 26,900 บาท
นอกจากนี้ก็ยังมีแบรนด์อื่นๆ ที่จะทยอยส่งลงมาในตลาดปีนี้ เช่น MSI, Lenovo และแบรนด์อื่นๆ ยังไงก็ลองติดตามรีวิวกันดูครับรับรองว่าไม่มีผิดหวัง
เลือกใช้ AMD Ryzen 4000 Series ถือว่าเลือกเทคโนโลยีที่ดีที่สุด และไม่ว่าโลกจะเปลี่ยนไปอีกแค่ไหนก็ตอบโจทย์ได้ทุกการใช้งาน ขอให้ทุกท่าน
มีความสุขกับการเลือกที่ลงตัวครับ.